พรีเมียร์ลีกโปรตุเกส นัดที่ 16 เบนฟิกา บุกไปเสมอกับ บรากา 2-2 โดยหลังจบเกม โชเซ มูรินโญ ให้สัมภาษณ์ในเชิงประชดประชันเกี่ยวกับการตัดสินในนัดนี้

เมื่อพูดถึงภาพรวมของเกม มูรินโญ กล่าวว่า "ผมไม่ได้พอใจกับตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะตลอด 90 นาที ผมไม่สามารถพาทีมเล่นในแบบที่ต้องการได้ทั้งหมด แต่ฟอร์มการเล่นของทีมในครึ่งหลังนั้นยอดเยี่ยมมาก ความจริงแล้วเราควรเป็นฝ่ายชนะด้วยสกอร์ 3-2 ซึ่งทุกคนคงเข้าใจดีว่าสิ่งที่ผมพูดคือการประชดประชัน เพราะถ้าผมไม่พูดแบบนี้ ผมคงถูกลงโทษอย่างหนักแน่นอน"

มูรินโญ ยังยอมรับว่าเขาไม่ทราบว่าสโมสรจะมีการแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้หรือไม่ โดยระบุว่า "ในฐานะองค์กร สโมสรอาจจะเลือกออกมาแสดงจุดยืน หรืออาจจะยอมรับสภาพที่เกิดขึ้นจนกลายเป็นความเคยชินไปแล้วก็ได้ ทั้งสองทางเป็นไปได้หมด ส่วนผมในฐานะเฮดโค้ช ผมทำหน้าที่ปรับแก้เกมในช่วงพักครึ่งจนสถานการณ์เปลี่ยนไปได้ ส่วนเรื่องแถลงการณ์นั้นผมไม่รู้ หน้าที่ของผมคือการคุมทีมเท่านั้น และจะไม่ขอวิจารณ์อะไรเกินขอบเขต เนื่องจากเราต้องเจอกับบรากาอีกครั้งในเร็วๆ นี้ ผมจึงไม่อยากลงรายละเอียดเรื่องแทคติกมากนัก เราต้องเจอพวกเขาถึงสองครั้งในหนึ่งสัปดาห์ หากตัดเรื่องอื่นออกไป นี่คือเกมที่ยอดเยี่ยม คู่แข่งมีคุณภาพสูง และผู้ตัดสินเองก็ทำหน้าที่ได้น่าชื่นชม ในมุมมองของผม เขาตัดสินภาพรวมได้ดีทีเดียว เพียงแต่ในโลกฟุตบอล ผลการแข่งขันและคะแนนในตารางมักถูกตัดสินด้วยจังหวะเหล่านี้ เมื่อมันผ่านไปแล้ว พูดไปก็ไม่มีประโยชน์"

เมื่อถูกถามว่าหากไม่มีปัญหาเรื่องการตัดสิน เบนฟิกาจะเป็นฝ่ายชนะใช่หรือไม่ มูรินโญ ตอบว่า "คำตอบมันชัดเจนอยู่แล้ว เราทำได้ถึงสามประตูที่ขาวสะอาด และควรชนะ 3-2 แต่ผมขอย้ำอีกครั้งว่า โดยรวมแล้วผมพอใจกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในนัดนี้ แม้จะมีใบเหลืองที่น่ากังขาหนึ่งหรือสองใบ หรือจังหวะที่เป่าหยุดเกมจนทำลายโอกาสสวนกลับของทีมเราไปบ้าง แต่ผมยอมรับว่านี่คือเกมที่ตัดสินยากมาก เพราะเกมเร็วและมีการเข้าปะทะกันตลอดเวลา พูดกันตามตรง ผมยอมรับในตัวผู้ตัดสินคนนี้ แต่ในจังหวะสำคัญที่ตัดสินผลแพ้ชนะเขากลับพลาด และผู้ตัดสินวิดีโอช่วยตัดสินก็ดันเห็นพ้องกับความผิดพลาดนั้นด้วย มันเป็นเรื่องแปลกประหลาดในโลกฟุตบอลที่สโมสรบางแห่งมักจะได้ประโยชน์จากความผิดพลาดจนชนะเสมอ ในขณะที่บางสโมสรกลับต้องเสียคะแนนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนี้ผมแค่อยากไปจากที่นี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทีมยังมีโปรแกรมเยือนที่ยาวนานรออยู่ แต่ผมยังเชื่อมั่นเสมอว่าเราคือผู้ชนะที่แท้จริงในเกมนี้"